ประมวลรายวิชาพัฒนาหลักสูตร (Curriculum Development)
1.ชื่อสถาบันอุดมศึกษา
มหาวิทยาลัยนครพนม
2.วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชา
คณะครุศาสตร์
3.รหัสและชื่อรายวิชา
31300305 พัฒนาการหลักสูตร (Curriculum Development)
4.จำนวนหน่วยกิต
3หน่วยกิต (2-2-5)
5.หลักสูตรประเภทวิชา
หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต
หมวดวิชาเฉพราะกลุ่มวิชา (วิชาบังคับ)
6.อาจารย์ผู้สอน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช
E-mail : Phichittra.npu.ac.th
Mobile: 0884555839
7.ภาคเรียนที่/ปีการศึกษา
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562
8.รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (Pre-requisite)(ถ้ามี)
-
9.สถานที่เรียน
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม
8.จุดมุ่งหมายของรายวิชา
รายวิชานี้ออกแบบไว้เพื่อช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้และบรรลุจุดมุ่งหมาย ดังนี้
8.1 มีความรู้ในเรื่องการพัฒนาหลักสูตร ทฤษฎีหลักสูตร และแบบจำลองการพัฒนาหลักสูตร
8.2 วิเคราะห์พื้นฐานการพัฒนาหลักสูตรด้านปรัชญา ด้านจิตวิทยา ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และด้านสาขาวิชา
8.3 มีทักษะกระบวนการพัฒนาหลักสูตร การวางแผ่นหลักสูตร การออกแบบหลักสูตรการจัดหลักสูตรหรือการนำหลักสูตรไปใช้ และการประเมินหลักสูตร8.4 มีความสามารถในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน8.5 มีเจตคติที่ดีและให้ความสำคัญต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของหลักสูตร
9.คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาความหมายวิเคราะห์ อภิปรายถึงความสำคัญ หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร ประเภทและองค์ประกอบของหลักสูตร รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของไทยและต่างประเทศ การวางแผนและการออกแบบหลักสูตร การนำหลักสูตรไปใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลักสูตรท้องถิ่น การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ปัญหาและแนวโน้มในการพัฒนาหลักสูตรและการประเมินผลหลักสูตร
10.จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อภาคการศึกษา
บรรยาย
|
สอนเสริม
|
การฝึกปฏิบัติงานภาคสนาม/การฝึกงาน
|
การศึกษาด้วยตัวเอง
|
2 ชั่วโมง/สัปดาห์
|
-
|
2ชั่วโมง/สัปดาห์
|
5 ชั่วโมง/สัปดาห์
|
แนวคิดการปรับเปลี่ยนเอกสารคำสอน รายวิชาพัฒนาหลักสูตรเป็นผลจากการวิจัยเรื่องการพัฒนากระบวนทัศน์การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง ในยุคการศึกษา 4.0 ของนักศึกษาวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยานครพนม ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย ปีการศึกษา 2560
มีการกำหนดจุดหมาย และจำนวนชั่วโมง ดังนี้
ด้านความรู้/ทักษะ Need Analysis Planning 16 Hrs/
Praxis-Generating 32 Hrs/
Praxis-Generating 32 Hrs/
Undersastanding-Producing 16 Hrs/
รวมจำนวน 64 ชั่วโมง
ออกแบบการสอน จำนวน 3 หน่วย
หน่วยที่ 1 การวางแผน (Planning Curriculum) (จำนวน 4 ครั้ง ๆ 4 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง)
1. การศึกษา การพัฒนามนุษย์ กับหลักสูตร
2. ทฤษฎีหลักสูตร
3. ข้อมูลพื้นฐานการพัฒนา
4. การวางแผนพัฒนาหลักสูตร
หน่วยที่ 2 ตอนที่ 1 การออกแบบหลักสูตร (Generating Curriculum – Organization) (จำนวน 4 ครั้ง ๆ 4 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง)
5. ประเภทของหลักสูตร
6. รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร
7. แบบจำลองพัฒนาหลักสูตร
หน่วยที่ 2 ตอนที่ 2 การจักระบบหลักสูตร (Generating Curriculum – Organization) (จำนวน 4 ครั้ง ๆ 4 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง)
8. การนำหลักสูตรไปใช้
9. การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
หน่วยที่ 3 การประเมินผลหลักสูตร (ผลผลิตหลักสูตร – Producing) (จำนวน 4 ครั้ง ๆ 4 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง)
10. การประเมินหลักสูตร
11. ปัญหาและแนวโน้มในการพัฒนาหลักสูตร
11. แผนการจัดการเรียนรู้
สัปดาห์
|
หัวข้อ/รายละเอียด
|
จำนวนชั่วโมง
|
กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อที่ใช้(ถ้ามี)
|
ผู้สอน
|
1
|
แนะนำรายวิชา
วางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน
การศึกษา การพัฒนามนุษย์ กับหลักสูตร ความหมายคุณสมบัติ
ความสำคัญองค์ประกอบ
ลักษณะของหลักสูตรที่ดี
|
4
|
-บรรยาย/อภิปราย/สรุป
-ประมวลการสอน
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
2
|
ทฤษฎีหลักสูตร
การสร้างทฤษฎีหลักสูตร
ทฤษฎีการออกแบบหลักสูตร
ทฤษฎีวิศวกรรมหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตรระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
|
4
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
3-4
|
ข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาหลักสูตร
ข้อมูลพื้นฐานทางด้านสังคมและวัฒนธรรม
ข้อมูลพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจ
ข้อมูลพื้นฐานทางด้านการเมืองการปกครอง
ข้อมูลพื้นฐานสภาพปํญหา และแนวทางการแก้ในสังคม
ข้อมูลพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ข้อมูลพื้นฐานทางสภาพสังคมในอนาคต
ข้อมูลพื้นฐานจากนักวิชาการจากสาขาต่าง
ข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับโรงเรียนชุมชนหรือสังคมที่โรงเรียนตั้งอยู่
ข้อมูลพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และการศึกษาหลักสูตรเดิม
|
8
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
5-6
|
การวางแผนพัฒนาหลักสูตร
การเรียนการสอนโดยการใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น
ประโยชน์ของการเรียนการสอนโดยใชการเรียนรู้ในท้องถิ่น
|
8
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
7
|
แบบจำลองพัฒนาหลักสูตร
แบบจำลองของไทเลอร์
แบบจำลองของทาบา
แบบจำลองวงจรชองวีลเลอร์และนิโคลส์
แบบจำลองของวีลเลอร์
แบบจำลองนิวโคลส์
แบบจำลองของวอคเกอร์
แบบจำลองของสกิลเบค
แบบจำลองของเซเลอร์และอเล็กซานเดอร์
แบบจำลองของพริ้นท์
แบบจำลองของโอลิวา
|
4
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
8
|
ประเมินผลระหว่างเรียน
|
4
|
สัปดาห์ที่1-สัปดาห์ที่7
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
9-10
|
รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรความหมายของการพัฒนาหลักสูตรหลักการพัฒนาหลักสูตร ผลที่ได้จากการพัฒนาหลักสูตร กระบวนการในการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร
|
8
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
11
|
ประเภทของหลักสูตร
-หลักสูตรบูรณาการ
-หลักสูตกว้าง
-หลักสูตรเสริมประสบการณ์
-หลักสูตรหลายวิชา
-หลักสูตรแกน
-หลักสูตรแฝง
-หลักสูตรสัมพันธ์วิชา
-หลักสูตรเกลียวสว่าน
-หลักสูตรสูญ
|
4
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
12-13
|
การนำหลักสูตรไปใช้
หลักกรนำหลักสูตรไปใช้
ขั้นตอนการนำหลักสูตรไปใช้
ผู้เกี่ยวข้องกับการนำหลักสูตรไปใช้
|
8
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
14
|
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ความจำเป็นของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ความหมายของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา แนวคิดการพัฒนาหลักสูตร ขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
|
4
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
15
|
การประเมินหลักสูตร
รูปแบบของการประเมินหลักสูตร
รูปแบบของการประเมินหลักสูตรของสเตค
รูปแบบของการประเมินหลักสูตร
ของสตัฟเฟิลบีม
รูปแบบของการประเมินหลักสูตร
ของไทเลอร์
รูปแบบของการประเมินหลักสูตร
ของแฮมมอนด์
รูปแบบของการประเมินหลักสูตร
ของโพรวัส
|
4
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
16
|
ปัญหาและแนวโน้มในการพัฒนาหลักสูตร
ปัญหาของการพัฒนาหลักสูตร
แนวโน้มของการพัฒนาหลักสูตร
|
4
|
-การนำเสนอเป็นกลุ่ม/อภิปราย/บรรยาย
-Power Point/ตัวอย่างในหนังสือ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
17
|
ประเมินผลปลายภาค
(หมายเหตุ: เป็นไปตามเกณฑ์ที่คุรุสภากำหนดให้สอนไม่น้อยกว่า16 สัปดาห์)
|
-
|
ทดสอบแบบทดสอบ
|
ผศ.ดร.พิจิตรา
|
รวม
|
64
|
12. แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
โครงสร้าง-แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา การพัฒนาลักสูตร หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม
เรื่อง.................................... เวลา 4 ชั่วโมง
![]() |
สาระสำคัญ
การจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ NPU Leaning Paradigm
วัตถุประสงค์
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้และทักษะการพัฒนาหลักสูตร ในประเด็นต่อไป
1.การวางแผน (Planning Curriculum)
2.การออกแบหลักสูตรและจัดระบบ(Generating)
3.ผลผลิตหลักสูตร(Producing)
เนื้อหา
สาระความรู้ในแต่ละบทเรียน(บทที่1-11)
หน่วยที่
|
เนื้อหาสาระ
|
1.การวางแผน (Planning Curriculum)
|
1.การศึกษา การพํฒนามนุษย์กับหลักสูตร
|
2.ทฤษฎีหลักสูตร
| |
3.ข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาหลักสูตร
| |
4.การวางแผนพัฒนาหลักสูตร
| |
2.การออกแบหลักสูตรและจัดระบบ(Generating)
|
5.ประเภทของหลักสูตร
|
6.รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร
| |
7.แบบจำลองหลักสูตร
| |
8.การนำหลักสูตรไปใช้
| |
9.การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
| |
3.ผลผลิตหลักสูตร(Producing)
|
10.การประเมินหลักสูตร
|
11.ปัญหาและแนวโน้มในการพัฒนาหลักสูตร
|
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน (30-60 นาที)
1.ผู้สอนใช้คำถาม เพื่อร่วมกันทำความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ตามกระบวนทัศน์ NPU Leaning Paradigm เริ่มจากทบทวนเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียน การเรียนการสอนแบบปกติ และการเรียนการสอนแบบการสร้างการเรียนรู้
กิจกรรมดังกล่าวนี้สามารถใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกันเรียนรู้ ให้สมาชิกในกลุ่ม กำหนดบทบาทหน้าที่ประธาน เลขานุการ และสมาชิก
ขั้นจัดการเรียนรู้ (60-120 นาที)
2.นักศึกษาแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนจัดการเรียนรู้ เพื่อวิเคราะห์จุดหมายในการเรียนรู้ ความต้องการที่ผู้เรียนต้องการได้รับการตอบสนองในการศึกษาเรียนรู้ ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ
2.1การกำหนดจุดมุงหมายการเรียนรู้
2.2การกำหนดระดับคุณภาพของการเรียนรู้ในรูปแบบของภาระงาน คำถามเกี่ยวกับความรู้ที่ได้เรียนรู้ โดยกำหนดหรือระบุเป็นสาระความรู้ Declarative khowledge หรือ What student will understand และกำหนดหรือระบุเป็นทักษะ Procedural khowledgeหรือ What student will be able to do
3.นักศึกษาจับคู่ร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ในประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ การแสวงหาและใช้แหล่งการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ และเรียนรู้ร่วมกัน ประกอบด้วย 3กิจกรรมย่อย คือ
3.1การออกแบบการเรียนรู้หรือเลือกกลยุทธ์ในการเรียนรู้ ในยุคการศึกษา 4.0 เลือกผลิตภัณฑ์ในการเรียนรู้ จากหนังสือหรือเอกสาร(ใบความรู้ หรือสื่อการเรียนรู้อื่นๆ) และเสนอแนะ/การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ในขั้นนี้มุ่งให้ผู้เรียนเรียนรู้แบบนำตนเอง เป็นรายบุคคล เพื่อบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ตามBloom ขั้นความจำและความเข้าใจ
3.2การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ โดยสืบเสาะหาหรือจัดเตรียมบทเรียนที่ใช้ในการเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล การเรียนรู้จากบทเรียนออนไลน์ที่เรียนรู้จาก Mobileleaning
ในขั้นตอนนี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้เป็นกลุ่มเพื่อนคู่คิด(จำนวน 2-3 คน)เพื่อบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ตาม Bloom ขั้นความจำความเข้าใจ นำไปใช้
3.3การบูรณาการความรู้อาศัยความร่วมมือกัน เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อบูรณาความรู้(จัดลำดับขั้นตามแนวคิดของบลูม จำ-เข้าใจ-นำไปใช้-วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า) และฝึกวิพากษ์ความรู้
ในขั้นตอนนี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้เป็นกลุ่มย่อย(จำนวน 4-5 คน)เพื่อบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ตาม Bloom ขั้นความจำ ความเข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า และสร้างสรรค์
4.นักศึกษาร่วมกันตรวจสอบความเข้าใจในมโนทัศน์การเรียนรู้ ในประเด็นการประเมินความเข้าใจในการเรียนรู้ ตรวจสอบทบทวนความเข้าใจในการเรียนรู้ ตรวจสอบทบทวนความเข้าใจในการเรียนรู้ของตนเอง ประกอบด้วย 2 กิจกรรมย่อย คือ
4.1การตรวจสอบแบบย้อนคิดทบทวน การประเมินผลการเรียนรู้ของตนเองการบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้
4.2การประเมินความรู้เปรียบเทียบกับมาตรฐานการประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ตามแนวคิด SOLO Taxonomy
ขั้นสรุป (30-60 นาที)
5.นักศึกษาร่วมกันแสดงความคิดเห็น และร่วมกันตอบคำถาม(ผู้สอนกำหนดประเด็นคำถาม) นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำเสนอคำตอบ อาจารย์และนักศึกษาแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ การร่วมกันสรุปประเด็นที่ได้จากการศึกษา
สื่อการเรียนการสอน
1.เอกสารประกอบการนำเสนอ (PowerPoint Presentation)
2.เอกสารคำสอนวิชาการพัฒนาหลักสูตร
3.บทความวิจัยเรื่อง การพัฒนากระบวนการทัศน์การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง ในยุคการศึกษา4.0 ของนักศนึกษาวิชาชีพครู
การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้
1.สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของนักศึกษา
2.ตรวจคำตอบตามประเด็นคำถาม
13.การประเมินผล
หลักการประเมินผลการเรียนรู้
กรอบที่ในการอ้างอิงทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการประเมินผลการศึกษาระดับอุดมศึกษาครั้งนี้คือ หลักการประเมินผลการเรียนรู้และการให้ข้อเสนอแนะที่ดี: ทฤษฎีและหลักการ ที่เป็นผลการศึกษาวิจับของเดวิด นิโคล (David Nicol University of Strathclyde) ซึ่งนำเสนอหลักการประเมินผลและการให้ข้อมูลย้อนกลับทีดี 10 ข้อ ดังนี้
1.ให้ความชัดเจนว่าการปฏิบัติงานที่ดีเป็นอย่างไร (เป้าหมาย เกณฑ์การวัด เกณฑ์มาตรฐาน)ขอบเขตของสิ่งที่ผู้เรียนต้องทำในหลักสูตรมีความสัมพันธ์กับเป้าหมายของงเกณฑ์และมาตรฐานก่อนระหว่าง และหลังการประเมินผลแค่ไหน
2.ให้ “เวลาและความพยายาม” กับการเรียนรู้สิ่งที่ท้าทาย ขอบเขตของงานที่มอบหมายมีส่วนกระตุ้นการเรียนรู้ทั้งในและนอกชั้นเรียน อย่างลึกซึ้งแค่ไหน
3.ให้ข้อมูลย้อนกลับคุณภาพสูงที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตรวจสอบความถูกต้องได้ด้วยตนเอง ผู้สอนให้ข้อมูลย้อนกลับแบบไหนและความคิดเห็นดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ปรับปรุงด้วยตัวเองได้อย่างไร
4.สร้างความเชื่อที่เป็นแรง บันดาลใจและความเคารพตนเองในทางบวกขอบเขตของการประเมินและการให้ข้อมูลย้อนกลับสามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียนและความสำเร็จแก่ผู้เรียนได้แค่ไหน
5. สนับสนุนให้มีการปฏิสัมพันธ์และการพูดคุยในเรื่องการเรียนการสอน (เพื่อนและครูนักเรียน) มีโอกาสใดบ้างสำหรับการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องงานที่มอบหมายเพื่อการประเมินผลในรายวิชาที่สอน
6.อำนวยความสะดวกในการพัฒนาการประเมินตนเองและการสะท้อนความคิดทางด้านการเรียนขอบเขตของโอกาสอย่างเป็นทางการสำหรับการให้ข้อมูลย้อนกลับการประเมินตนเองการประเมินโดยเพื่อนในวิชาที่เรียนมีแค่ไหน
7.ให้โอกาสผู้เรียนเลือกการประเมินผล-เนื้อหาและกระบวนการขอบเขตของผู้เรียนสำหรับการเลือกหัวข้อวิธีการเกณฑ์การวัดผลค่าน้ำหนักคะแนนกำหนดเวลาและงานที่มอบหมายเพื่อการประเมินผล(งานที่ใช้ประเมินผล/การประเมินผลงาน) ในรายวิชาที่สอนมีแค่ไหน
8.ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการประเมินผลและปฏิบัติขอบเขตของข้อมูลผู้เขียนได้รับหรือมีการ ส่วนร่วมให้คำปรึกษา เพื่อการตัดสินใจเรื่องการประเมินผลมีแค่ไหน
9.สนับสนุนการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ขอบเขตของการประเมินผลและการให้ข้อมูลย้อนกลับช่วยสนับสนุนการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้แค่ไหน
10.ช่วยครูผู้สอนในการปรับสอนเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียน
การประเมินผลจะมีหลักการกระบวนการการประเมินการเรียนรู้ดังต่อไปนี้
การประเมินผลจะมีหลักการกระบวนการการประเมินการเรียนรู้ดังต่อไปนี้
1.การประเมินผลต้องยึดตามจุดประสงค์การสอนที่ชัดเจน
2. ขั้นตอนและเทคนิคในการประเมินผลควรเลือกตามจุดประสงค์ในการประเมิน
3. การประเมินผลควรเป็นที่เข้าใจได้ตรงกัน
4. การประเมินผลควรทำอย่างต่อเนื่อง
5. การประเมินผลควรระบุจุดอ่อนจุดแข็งและใช้งานได้
6.การประเมินผลควรเป็นความพยายามร่วมกัน
7. การประเมินผลควรจะมีความละเอียดรอบคอบ
การประเมินผล
ดังนั้นการประเมินผลของรายวิชา กำหนดค่าน้ำหนักคะแนน และค่าระดับ(เกรด) ดังนี้
13.1ประเด็นการ ประเมินผลของรายวิชาพร้อมค่าน้ำหนักเป็นร้อยละ
1. การสัมมนาประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร ร้อยละ 10
2. ประเมินกิจกรรมพัฒนาบุคลิกภาพความสนใจและเข้าชั้นเรียน ร้อยละ 10
3. การฝึกปฏิบัติ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาหรือตามความสนใจ ร้อยละ 10
4. การนำเสนอผลงาน ร้อยละ 20
5.การประเมินความรอบรู้
กลางภาคเรียน ร้อยละ 20
ปลายภาคเรียน ร้อยละ 30
ปลายภาคเรียน ร้อยละ 30
13.2 การกำหนดค่าระดับเกรดแต่ละระดับ ช่วง(ร้อยละ)ของคะแนน
คะแนน (ร้อยละ)
|
เกรด
|
80-100
|
A
|
75-79
|
B+
|
70-74
|
B
|
65-69
|
C+
|
60-64
|
C
|
55-59
|
D+
|
50-54
|
D
|
ต่ำกว่า 50
|
F
|
14.เอกสารและข้อมูลสำคัญ
คณะกรรมาธิการนานาชาติว่าด้วยการศึกษาในศตวรรษที่21. การเรียนรู้ : ขุมทรัพย์ในตน.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว
วิจารณ์ พานิช (2555) วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21 กรุงเทพฯ : มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์
Tyler R.W. (1949) Basic Principles of Curriculum and InstructionChicago : University of Chicago
press
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น