หลักสูตรต้องวางแผนเพื่อการบรรลุทักษะในศตวรรษที่
21
ในปี 1983
สมาคมการพัฒนาหลักสูตรและการนิเทศ (Association for Supervision and
curriculum development : ASCD)ได้เผยแพร่บทความวิจัย ของ Benjamin
I. Troutman and Robert D.Palombo เรื่อง Identifying
Futures Trends in Curriculum Planning โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง 36
คนจากโรงเรียน Virginia Beach Public Schools ข้อมูลที่ได้สรุปได้ว่า
ในอนาคตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเป็นตัวชี้การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร อันเป็นผลจาก
การขยายความรู้ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว และความรู้มีความเป็นศาสตร์เฉพาะการเพิ่มขึ้น
ซึ่งมีการศึกษาผลต่อหลักสูตรใน 3 ประเด็น คือ
1.
ความเป็นความรู้ที่ร่วมกันของวิทยาการที่เจริญก้าวหน้า
2
.ความสมดุลระหว่างความยากลำบากในการได้มาของข้อเท็จจริงกับการพัฒนาทักษะกระบวนการ
3.
เอกสารความรู้ที่ใช้เป็นแหล่งความรู้ในหลักสูตร
จากขอบข่ายดังกล่าวนี้กลุ่มตัวอย่างจากโรงเรียน Virginia Beach Public Schools ให้ความเห็นว่าแนวโน้มในอนาคตที่มีผลต่อการวางแผนหลักสูตรมี 15 ประเด็นคือ
1.ทักษะพื้นฐานทางวิชาการ (Basic Academic
Skills) จะต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นกับทักษะการสื่อสาร คณิตศาสตร์
และวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะหลักสูตรอาชีวศึกษา
2
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ (Computes and Other Information
Technologies) คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆมีรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วอุปมาดั่งเช่นเป็นพาหนะขับเคลื่อนการศึกษาสำหรับผู้เรียนทุกคน
การพัฒนาแผนสำหรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในระบบโรงเรียน Virginia
Beach Public Schools ตั้งแต่อนุบาลถึงเกรดสิบสอง
3
ความยืดหยุ่นของหลักสูตร (Curriculum
Flexibility)ให้โอกาสอันยิ่งใหญ่ที่มั่งคั่งสมบูรณ์และรวดเร็วจากหลักสูตร
สำหรับอนุบาลถึงเกรดสิบสอง
4
การทบทวนหลักสูตร (Curriculum
Revision) พัฒนาแผนปฏิบัติการที่แน่ใจว่าสามารถดำเนินการต่อไปได้
หลักสูตรได้รับการทบทวนและมีการประเมินอย่างเป็นระบบ
5
ความเป็นประชาธิปไตย (Democratic
Ideals)ทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับกระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
6
โปรแกรมสำหรับเด็กเล็ก (Early
Childhood Programs) ขยายโปรแกรมสำหรับเด็กเล็ก
(เด็กก่อนอนุบาล)ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์การเรียนรู้
7
การมองอนาคต (Futures
Perspective) การรวมขอบเขตสาระเป็นหลักสูตรเดียวโดยสิ่งต่างๆเหล่านั้นเป็นประเด็นสะท้อนและอธิบายประเด็นร่วมสมัย
แนวโน้มอนาคต
และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจุบันกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปและทางเลือกในอนาคต
8 สัมพันธภาพระดับสากล (Global
Interrelationships)ให้ความสำคัญกับมุมมองของความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจ
และวัฒนธรรม-ชาติพันธุ์ของมนุษย์ที่หลักสูตรต้องมีความหลากหลาย
9 การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong
Learning) ขยายโอกาสสำหรับสมาชิกของชุมชนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนที่สนใจเรียนรู้ในรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
10 สื่อมวลชน (Mass Media) ให้ความสำคัญกับทักษะในการวิเคราะห์วิจารณ์ การฟัง และ
การดูที่เกี่ยวข้องกับการแปลความหมายจากสื่อ
11 การเติมเต็มบุคลิกภาพ (Personal
Fulfillment) โรงเรียนเป็นสถานที่อันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างความคิดต่อตนเองเชิงบวก
และพัฒนาสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
12 การประยุกต์กระบวนการ (Process
Approach)หลักสูตรมุ่งที่การแก้ปัญหา การตัดสินใจ ความคิดสร้างสรรค์
และทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะการนำไปใช้ การวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมินค่า
13 การพัฒนาทีมงาน (Staff
Development ) เพิ่มโอกาสให้พัฒนาทีมงาน
โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี
14 ใช้ชุมชน (Use of
Community) เพิ่มบทบาทของผู้ปกครองและแหล่งเรียนรู้ในชุมชนในการจัดโปรแกรมการศึกษาเชื่อมโยงการเรียนรู้ในชั้นเรียนกับประสบการณ์ในชุมชน
15 การอาชีวะและอาชีพศึกษา (Vocational and
Career Education) แน่ใจว่าการศึกษาอาชีวและอาชีพสะท้อนการเปลี่ยนแปลงมโนทัศน์ในการทำงานและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียน
สรุป
ปัญหาและแนวโน้มการพัฒนาหลักสูตรพิจารณาได้จากข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรที่ถูกรวบรวมวิเคราะห์เชื่อมโยงเป็นชุดของจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ใช้ในการวางแผนพัฒนาหลักสูตรและนำไปออกแบบหลักสูตร
โดยการอธิบายเหตุผลการได้มาของสาระความรู้ในหลักสูตร ที่มีเหตุผลประอบหลักวิชาโดยอาศัยทฤษฎีการเรียนรู้ต่างๆและนักพัฒนาหลักสูตรนำมากำหนดเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียน
กำหนดสาระเนื้อหาและผลการเรียนรู้
ข้อมูลต่างๆเหล่านี้สามารถเป็นแนวทางช่วยให้อธิบายแนวโน้มของหลักสูตรได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น