การนำหลักสูตรไปใช้
1. การนำ หลักสูตรไปใช้
2. • การนำหลักสูตรไปใช้เป็นขั้นตอนสาคัญของการพัฒนาหลักสูตร
เป็น กระบวนการดาเนินงานและกิจกรรมต่างๆในการนาหลักสูตรไปสู่
โรงเรียนและจัดการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายของ หลักสูตร
การนาหลักสูตรไปใช้เป็นงานเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย
ตั้งแต่ระดับกระทรวงศึกษาธิการ แต่ละฝ่ายมีความเกี่ยวข้องในแต่ละ ส่วนของการนาหลักสูตรไปใช้
เช่น หน่วยงานส่วนกลางเกี่ยวข้องใน
ด้านการบริหารและบริหารหลักสูตรกับการนิเทศและติดตามผลการใช้ หลักสูตร
3. • การนำหลักสูตรไปใช้จาต้องเป็นขั้นตอนตามลาดับ
นับแต่ขั้นการ วางแผน และเตรียมการในการประชาสัมพันธ์หลักสูตร และการเตรียม
บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ขั้นต่อมาคือการดาเนินการนาหลักสูตรไปใช้อย่าง มีระบบ
นับแต่การจัดครูเข้าสอนตามหลักสูตร การบริการวัสดุ
หลักสูตรและสิ่งอานวยความสะดวกในการนาหลักสูตรไปใช้ และ
ดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร
4. •
ส่วนขั้นสุดท้ายต้องติดตามประเมินผลการนาหลักสูตรไปใช้ นับแต่ การนิเทศติดตามผลการใช้หลักสูตร
การติดตามและประเมินผลการใช้ หลักสูตร การนาหลักสูตรไปใช้ถือเป็นกระบวนการที่สาคัญ
ที่จะทา ให้หลักสูตรที่สร้างขึ้นบรรลุผลตามจุดหมาย และเป็นกระบวนการที่
ต้องได้รับความร่วมมือจากบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายๆฝ่าย และที่สาคัญ ที่สุดคือครูผู้สอน
5. ความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้
การนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นาหลักสูตร
ไปสู่การปฏิบัติงานที่มีขอบเขตกว้างขวาง ทาให้
การให้ความหมายของคาว่าการนาหลักสูตรไป ใช้แตกต่างกันออกไป นักการศึกษาหลายท่าน
ได้แสดงความคิดเห็นหรือให้คานิยามของคาว่า การนาหลักสูตรไปใช้ เช่น
6. • โบแชมป์
ได้ให้ความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้ว่า การนาหลักสูตรไป ใช้ หมายถึง
การนาหลักสูตรไปปฏิบัติ โดยการะบวนการที่สาคัญที่สุด คือ
การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอนการจัดสภาพสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้ครู
ได้มีพัฒนาการเรียนการสอน • สันติ ธรรมบารุง กล่าวว่า
การนาหลักหลักสูตรไปใช้หมายถึงการที่ผู้บริหาร
โรงเรียนและครูนาโครงการของหลักสูตรที่เป็นรูปเล่มนั้นไปปฏิบัติให้บัง เกิดผล
รวมถึงการบริหารงานด้านวิชาการของโรงเรียนเพื่ออานวยความ
สะดวกให้ครูและนักเรียนสามารถสอนและเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ • สงัด อุทรานันท์
ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการนาหลักสูตรไปใช้ว่า เป็น
ขั้นตอนของการพัฒนาหลักสูตรไปสู่การเรียนการสอนในห้องเรียน ได้แก่การ
จัดเอกสารประกอบหลักสูตร การเตรียมบุคลากร การบริหารและบริการ หลักสูตร
และการนิเทศการใช้หลักสูตร
7. แนวคิดเกี่ยวกับการนาหลักสูตรไปใช้ •
สิ่งแรกที่ควรทาคือ การจัดสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ครูผู้นา
หลักสูตรไปใช้มีหน้าที่แปลงหลักสูตรไปสู่การสอน โดยใช้หลักสูตร
เป็นหลักในการพัฒนากลวิธีการสอน สิ่งที่ควรคานึงถึงในการนา
หลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลตามเป้าหมาย 1. ครูผู้สอนควรมีส่วนร่วมในการร่างหลักสูตร 2.
ผู้บริหารต้องเห็นความสาคัญและสนับสนุนการดาเนินงานให้เกิดผล
สาเร็จได้ผู้นาที่สาคัญที่จะรับผิดชอบได้ดี คือครูใหญ่
8. หลักการที่สาคัญในการนาหลักสูตรไปใช้
1. จะต้องมีการวางแผนและเตรียมการ 2.
จะต้องมีองค์คณะบุคคลทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นทาหน้าที่ประสานงานกัน 3.
ดาเนินการอย่างเป็นระบบ 4. คานึงถึงปัจจัยที่จะช่วยในการนาหลักสูตรไปใช้ 5.
ครูเป็นบุคคลที่สาคัญที่สุด ดังนั้น
ครูจะต้องได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่และจริงจัง 6.
จัดตั้งให้มีหน่วยงานที่มีผู้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อให้การสนับสนุนและพัฒนาครู 7.
หน่วยงานและบุคคลในฝ่ายต่างๆ ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ 8.
มีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ
9. ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ 1.
ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร - การตรวจสอบลักษณะหลักสูตร -
การวางแผนและการทาโครงการศึกษานาร่อง - การประเมินโครงการศึกษานาร่อง -
การประชาสัมพันธ์หลักสูตร - การเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
10. 1.การตรวจสอบลักษณะหลักสูตร
จุดประสงค์ของการตรวจสอบหรือทบทวนหลักสูตรเพื่อต้องการทราบ
ว่าหลักสูตรที่พัฒนาเสร็จแล้วนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด เพื่อ
ศึกษาหาวิธีการที่จะนาหลักสูตรไปใช้ปฏิบัติได้จริงตามเจตนารมณ์ ของหลักสูตร
รวมทั้งศึกษาองค์ประกอบและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการ
ใช้หลักสูตรและบริบททางสังคมอื่นๆ ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ใช้หลักสูตร
1.ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร(ต่อ)
11. 2.การวางแผนและทาโครงการศึกษานาร่อง
เป็นสิ่งที่จาเป็นจะตรวจสอบคุณภาพความเป็นไปได้ของหลักสูตร ก่อนที่จะนาไปใช้จริง
วิธีการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติประการแรก
คือเลือกตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะทาการใช้หลักสูตร จากนั้น
แปลงหลักสูตรสู่กระบวนการเรียนการสอน พัฒนาวัสดุหลักสูตร
เตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมในการใช้หลักสูตร จัดหาแหล่งบริการ
สนับสนุนการใช้หลักสูตร งบประมาณ จัดสิ่งแวดล้อมที่จะสนับสนุน การสอน
1.ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร(ต่อ)
12. 3.การประเมินโครงการศึกษานาร่อง
อาจจะกระทาได้หลายรูปแบบ เช่น การประเมินผลการเรียนจากผู้เรียน
โดยการประเมินแบบย่อยและการประเมินรวบยอด การประเมิน หลักสูตรหรือประเมินทั้งระบบการใช้หลักสูตร
และปรับแก้จากข้อ ค้นพบ
โดยประชุมสัมมนากับผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ หลักสูตร
เพื่อนาความคิดเห็นบางส่วนมาปรับปรุงหลักสูตรให้ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
1.ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร(ต่อ)
13. 4.การประชาสัมพันธ์หลักสูตร
การประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ว่าจะมาเริ่มตอนจัดทาหลักสูตรต้นแบบเสร็จ แ ล้ ว
แต่ควรเริ่มต้นตั้งแต่มีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลักสูตรโดย
ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบเป็นระยะๆ ว่า ได้มีการดาเนินการไปแล้วแค่ ไหนเพียงใด
ซึ่งการประชาสัมพันธ์อาจทาได้หลายรูปแบบ เช่น การ
ออกเอกสารสิ่งพิมพ์การใช้สื่อสารมวลชน 1.ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร(ต่อ)
14. 5.การเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
การอบรมครู ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรต้องคานึงถึง
และต้องกระทาอย่างรอบคอบ นับแต่ขั้นเตรียมการสารวจข้อมูล
เบื้องต้นที่นามาใช้ในการวางแผน และวิธีการฝึกอบรมบุคลากร เช่น
ข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการใช้หลักสูตรซึ่งจะมีความแตกต่างของความ
พร้อมของการใช้หลักสูตร 1.ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร(ต่อ)
15. 2. ขั้นดาเนินการใช้หลักสูตร -
การบริหารและบริการหลักสูตร - การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร -
การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ (ต่อ)
16. 1.การบริหารและบริการหลักสูตร
หน่วยงานบริการหลักสูตรส่วนกลางของคณะพัฒนาหลักสูตรจะมี
หน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเตรียมบุคลากรเพื่อใช้หลักสูตรและการ
บริหารและบริการวัสดุหลักสูตร ส่วนงานบริหารและบริการหลักสูตร ในระดับท้องถิ่น
โรงเรียนก็จะจัดบุคลากรเข้าสอนตามความถนัดและ ความเหมาะสม ได้แก่ 2.
ขั้นดาเนินการใช้หลักสูตร (ต่อ)
17. การจัดครูเข้าสอนตามหลักสูตร •
หมายถึง การจัดและดาเนินการเกี่ยวกับการสรรหาและกลวิธีการใช้บุคลากร
อย่างเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและ ประสบการณ์
รวมทั้งสามารถพัฒนาบุคลากรเพื่อให้มีความสามารถในการ ปฏิบัติหน้าที่
และมีความรับผิดชอบต่อการงานอย่างมีประสิทธิภาพ
18. บริการพัสดุหลักสูตร •
วัสดุหลักสูตรที่กล่าวถึงนี้ได้แก่ เอกสารหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอนทุก
ชนิดที่จัดทาขึ้นเพื่อให้ความสะดวก และช่วยเหลือครูให้สามารถใช้หลักสูตรได้
อย่างถูกต้อง
19. การบริหารหลักสูตรภายในโรงเรียน •
ได้แก่ การจัดสิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ แก่ผู้ใช้หลักสูตร เช่น การบริหาร
ห้องสอนวิชาเฉพาะบริการเกี่ยวกับห้องสมุด สื่อการเรียนการสอน บริการ
เกี่ยวกับเครื่องมือในการวัดผลและประเมินผลและการแนะแนว เป็นต้น
20. 2.การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร
แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ 1. การปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่น
เนื่องจาก หลักสูตรที่ร่างขึ้นมาเพื่อใช้กับประชากรโดยส่วนรวมในพื้นที่กว้างขวาง
ทั่วประเทศนั้น มักจะไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของ ท้องถิ่น ดังนั้น
เพื่อให้หลักสูตรมีความสอดคล้องกับสภาพของสังคมใน ท้องถิ่น
และสามารถสนองความต้องการของผู้เรียน ควรจะได้มีการปรับ
หลักสูตรกลางให้มีความเหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่น ที่ใช้หลักสูตรนั้นๆ
21. 2.
การจัดทาแผนการสอนเป็นการขยายรายละเอียดของหลักสูตรให้ไปสู่ ภาคปฏิบัติโดยการกาหนดกิจกรรมและเวลาไว้อย่างชัดเจน
สามารถนาไปปฏิบัติได้ แผนการสอนควรจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. แผนการสอนระยะยาว
จัดทาเป็นรายภาคหรือรายปี 2. แผนการสอนระยะสั้น
นาแผนการสอนระยะยาวมาขยายเป็นรายละเอียดสาหรับ การสอนในแต่ละครั้ง
2.การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร (ต่อ)
22. 3. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละ
ครั้งจาเป็นจะต้องเริ่มจากการพิจารณาถึงจุดมุ่งหมายของการสอน การจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจจะทาได้หลายๆชนิด ซึ่งจะมีความ
แตกต่างกันไปอย่างมากในเรื่องการใช้เวลา การใช้แรงงาน การใช้ทรัพยากร
ตลอดจนการใช้งบประมาณ โดยเหตุนี้ครูผู้สอนในฐานะเป็นผู้จัดกิจกรรมให้กับ
ผู้เรียนควรพิจารณาคัดเลือกกิจกรรมที่เห็นว่าจะก่อให้เกิดความรู้ หรือประสบการณ์
และสามารถทาให้บรรลุจุดมุ่งหมายได้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด ประหยัดเวลาที่สุด
2.การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร (ต่อ)
23. 4. การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน
ในการนาหลักสูตรไปใช้อย่างมี ประสิทธิภาพนั้น มีขั้นตอนหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้คือ
การวัดและประเมินผล เพราะ การวัดและประเมินผลจะได้ข้อมูลย้อนกลับ
ที่สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความก้าวหน้าในการเรียนรู้ว่าบรรลุตาม
จุดประสงค์ของการสอนและความมุ่งหมายของหลักสูตรหรือไม่
2.การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร (ต่อ)
24. ประกอบไปด้วย การจัดงบประมาณ
การใช้อาคารสถานที่ การอบรบ เพิ่มเติมระหว่างการใช้หลักสูตร
และการจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อ สนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
3.การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
25. 1.
การจัดงบประมาณเพื่อการเรียนการสอนนั้นมีความสาคัญมากสาหรับ สถานศึกษาทุกระดับ
ผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องบริหารงาน
งบประมาณของโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงและตามเป้าหมายที่กาหนดไว้หรือ
อีกนัยหนึ่งก็คือ
ผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินของโรงเรียน
จะต้องมีสมรรถภาพในการจัดงบประมาณของโรงเรียนได้ดี ไม่มีผิดพลาด จึงจะ
สามารถจัดงบประมาณของโรงเรียนให้สอดคล้องกับแผนการเรียนการสอนของแต่ ละกลุ่มวิชาได้เป็นอย่างดี
3.การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร (ต่อ)
26. 2.
การใช้อาคารสถานที่เป็นสิ่งสนับสนุนการใช้หลักสูตรซึ่งผู้บริหารการศึกษาพึง
ตระหนักอยู่เสมอว่า อาคารสถานที่ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในสถานศึกษาย่อมเป็น
ส่วนประกอบสาคัญต่อการเรียนการสอน และการอบรมบ่มเพราะนิสัยแก่ผู้เรียนได้ ทั้งสิ้น
ฉะนั้นผู้บริหารจาเป็นจะต้องวางโครงการและแผนการใช้อาคารสถานที่ทุก แห่งให้เหมาะสม
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะสามารถกระทาได้
3.การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
27. 3.
การอบรมเพิ่มเติมระหว่างการใช้หลักสูตร ขณะที่ดาเนินการใช้หลักสูตรจะต้อง
ศึกษาปัญหาและปรับแก้สิ่งต่างๆ ให้เข้ากับสภาพจริงและความเป็นไปได้ให้มาก
ที่สุดเท่าที่จะมากได้ทั้งนี้โดยไม่ให้เสียหลักการใหญ่ของหลักสูตร
สิ่งที่ครูต้องการ มากที่สุดคือการฝึกอบรมเพิ่มเติม
เพื่อสร้างความพร้อมในการสอนของครูให้เกิด ความมั่นใจมากขึ้น
3.การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
28. 4.
การจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตรภารกิจ
เกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตรที่อยู่ใน
ความรับผิดชอบของส่วนกลางซึ่งเป็นผู้พัฒนาหลักสูตร หน่วยงานนี้ควรหาทาง
สนับสนุนและส่งเสริมหน่วยงานผู้ใช้หลักสูตรให้สามารถดาเนินการใช้หลักสูตร
ด้วยความมั่นใจ การจัดตั้งศูนย์วิชาการ อาจจะทาในลักษณะของศูนย์ให้บริการ
แนะนาช่วยเหลือ หรือจัดตั้งโรงเรียนตัวอย่าง
3.การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
29. 3. ขั้นติดตามและประเมินผล -
การนิเทศและการใช้หลักสูตรในโรงเรียน - การติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตร
ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ (ต่อ)
30.
1.การนิเทศและติดตามการใช้หลักสูตรในโรงเรียน
การนิเทศมีความจาเป็นอย่างยิ่งในหน่วยงานทุกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน วงการศึกษา
เพื่อเป็นการช่วยปรับปรุงการเรียนการสอน การนิเทศและ
ติดตามผลการใช้หลักสูตรในระหว่างการใช้หลักสูตรนั้น หน่วยงาน
ส่วนกลางในฐานะผู้พัฒนาหลักสูตรควรจัดส่งเสริมเจ้าหน้าที่ไปให้
คาแนะนาเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรเพิ่มเติมและติดตามผลการใช้หลักสูตรใน
โรงเรียนว่าได้ดาเนินการด้วยความถูกต้องหรือไม่ มีปัญหาใดเกิดขึ้นหรือไม่
หากไม่มีปัญหาก็จะได้แก้ไขให้ลุล่วงไป 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
31.
การนิเทศการใช้หลักสูตรหรือนิเทศการจัดการเรียนการสอน ต้องคานึงถึงหลัก
สาคัญของการนิเทศ คือ การให้คาแนะนาช่วยเหลือไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อจับผิด
แต่ประการใด โดยลักษณะเช่นนี้ ผู้นิเทศจาเป็นจะต้องสร้างความสัมพันธ์และ
ความเข้าใจอันดีกับผู้รับการนิเทศ การดาเนินการนิเทศจะต้องดาเนินไปด้วย
บรรยากาศแห่งความเป็นประชาธิปไตยและร่วมมือกัน 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
32. 2.การติดตามและการประเมินผลการใช้หลักสูตร
จะต้องมีการวางแผนไว้ให้ชัดเจนว่าจะทาการประเมินส่วนใดของ หลักสูตร
การออกแบบการประเมินที่กว้างและลึก คือการมองภาพรวม
ทั้งหมดของการใช้หลักสูตรของการหาตัวบางชี้สาคัญๆ นั้นจะต้อง
ระมัดระวังเรื่องตัวแปรทางวัฒนธรรมทางสังคมและทางเศรษฐกิจด้วย เพราะบางอย่างผู้ประเมินอาจจะมองข้ามไป
3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
33.
กระบวนการในการประเมินผลเพื่อควบคุมภาพของหลักสูตร ในแง่ของการ
ปฏิบัติการกระบวนการของการประเมินผลเพื่อควบคุมคุณภาพของหลักสูตรแบ่ง ออกเป็น 3
ขั้นตอนคือ 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
34. 1. การตรวจสอบประสิทธิผลและความตกต่าของคุณภาพของหลักสูตร
วิธีการ ตรวจสอบเริ่มด้วยการรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน (Basic Data) เพื่อใช้เปรียบเทียบ กับข้อมูลระหว่างการดาเนินการ
ข้อมูลพื้นฐานนี้ควรเก็บรวบรวมในระหว่างที่นา หลักสูตรไปทดลองในภาคสนาม
ควรเก็บให้ได้มากและหลากหลาย 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
35. 2.
การตรวจสอบหาเหตุที่ทาให้คุณภาพตกต่า งานนี้เริ่มขึ้นเมื่อได้มีการพบแล้วว่า
คุณภาพของหลักสูตรตกต่าลง มีสมมุติฐานหลายเรื่องที่อาจนามาใช้ในการค้นหา
สาเหตุที่สาคัญคือ 1. ความล้มเหลวในการใช้หลักสูตร การที่จะใช้หลักสูตรให้มีประสิทธิผลใน
ทุกสภาพย่อมเป็นไปไม่ได้หลักสูตรแต่ละหลักสูตรย่อมมีจุดหมายที่แตกต่างกัน
และการที่บรรลุจุดหมายก็ต่อเมื่อได้มีการใช้หลักสูตรในสภาพและเงื่อนไขที่
เหมาะสมเท่านั้น 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
36. 2.
ความเปลี่ยนแปลงของสภาพและเงื่อนไขในเวลาที่นาหลักสูตรไปใช้สภาพ
ภายในโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่นาหลักสูตรไปใช้ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา
ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ทาการทดลองใช้ในภาคสนามขวัญและกาลังใจของผู้สอนดี มาก
แต่ตอนที่เอาหลักสูตรไปใช้จริงๆ กลับลดต่าลง 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
37. 3. ความเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเป้าหมาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้อาจเป็นไปได้ว่าลักษณะ
ของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทดลองภาคสนามกับที่นาหลักสูตรมาใช้จริงมีความ
แตกต่างกันมาก เช่น ในด้านระดับความรู้ความสามารถ เจตคติ และค่านิยมที่มีต่อ
การเรียน 3. ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
38. 4 วิธีการวิเคราะห์ผลการทดสอบ
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าการทดสอบหรือการ
ประเมินผลนั้นมีทั้งการทดสอบระหว่างการดาเนินการ หรือการทดสอบย่อย และ
การทดสอบขั้นสุดท้าย หรือการทดสอบรวม การทดสอบรวมเป็นการทดสอบที่
บอกให้เราทราบว่าหลักสูตรดีขึ้นหรือเสื่อมคุณภาพลง แต่ไม่สามารถชี้แจงเจาะจง
ลงไปว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหนเพราะเหตุใด ในทางตรงข้ามการทดสอบระหว่าง
ดาเนินการหรือการทดสอบย่อย ซึ่งใช้ในการวินิจฉัยจุดอ่อนของผู้เรียนสามารถช่วย
ให้เราทราบว่าหลักสูตรมีจุดอ่อนในเรื่องอะไร และเป็นเพราะเหตุใด ด้วยเหตุนี้เรา
จึงใช้การทดสอบย่อยเป็นเครื่องชี้ถึงสาเหตุการตกต่าของหลักสูตร 3.
ขั้นติดตามและประเมินผล (ต่อ)
39. 3.
แก้ไขและตรวจสอบประสิทธิผลของวิธีการที่นามาแก้ไข หลังจากที่ได้ทราบ
แล้วว่าความตกต่าของคุณภาพหลักสูตรคือเรื่องอะไร และเกิดจากสาเหตุอะไรแล้ว
ขั้นต่อไปของกระบวนการควบคุมคุณภาพก็คือการแก้ไข สาหรับการแก้ไขนี้อาจทา
ได้หลายวิธีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัญหาที่ทาให้คุณภาพตกต่า ในบางกรณีอาจ
ใช้วิธีปรับปรุงวิธีการสอนและแก้ไขหลักสูตรบางส่วน เช่น ตัดทอนหรือเพิ่มเติม
เนื้อหาสาระแก้ไขวิธีสอนโดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนให้เล็กลง
40. บทบาทของหน่วยงานและบุคลากรในการนาหลักสูตรไปใช้
บทบาทของหน่วยงาน 1. การใช้หลักสูตรโดยหน่วยงานส่วนกลางที่มีบทบาทเต็มที่ 2.
การใช้หลักสูตรโดยให้โรงเรียนมีบทบาทเต็มที่ 3.
การใช้หลักสูตรโดยให้หน่วยงานส่วนกลางมีบทบาทเป็นส่วนใหญ่ และมี
หน่วยงานท้องถิ่นเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ 4. ใช้หลักสูตรโดยให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นมีบทบาทสาคัญ
และหน่วยงาน ส่วนกลางเป็นผู้ให้การสนับสนุน
41. บทบาทของบุคลากรในการนาหลักสูตรไปใช้
1. ผู้บริหารโรงเรียน ให้การสนับสนุนการนาหลักสูตรไปใช้ให้เกิด ประสิทธิภาพ
ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร สามารถบริหารหลักสูตร 2. หัวหน้าหมวด
ดาเนินการส่งเสริมการใช้หลักสูตรต้องมีความเข้าใจหลักสูตรใน สาระที่ตนรับผิดชอบ
และวางแผนดาเนินงานการใช้ระดับของตนเองได้อย่าง เหมาะสม มีประสิทธิภาพ 3.
ครูผู้สอน ในฐานะเป็นผู้ใช้หลักสูตรโดยตรงและโดยอ้อมคือเข้าร่วมพัฒนา
หลักสูตรในระดับต่างๆ และเป็นผู้ติดตามการใช้หลักสูตรอย่างใกล้ชิด
42. สรุป
การนาหลักสูตรไปใช้เป็นการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน เป็น
กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย และเป็นกิจกรรมที่เป็นขั้นตอนการ
ปฏิบัติหลายขั้นตอน วิธีการของกระบวนการนาหลักสูตรไปใช้ น่าจะเป็นหัวใจ
สาคัญของการพัฒนาหลักสูตรมีผู้กล่าวว่า แม้เราจะมีหลักสูตรที่ดีแสนดี แต่ถ้านา
หลักสูตรไปใช้อย่างไม่ถูกต้องแล้วหลักสูตรนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้ จะต้องศึกษา ทาความ
เข้าใจกับการนาหลักสูตรไปใช้ตามบทบาทหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้
การใช้หลักสูตรนั้น สัมฤทธิ์ผลตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น