การวางแผนหลักสูตรทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นจำเป็นที่จะต้องได้รับการประเมิน
ทาบาได้ตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการประเมินหลักสูตร เช่น
จะประเมินคุณภาพของการเรียนรู้ได้อย่างไรว่าจุดหมายของการศึกษาที่กำหนดไว้
ประสบผลสำเร็จ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจุดหมายและจุดประสงค์ของหลักสูตรมีความสอด
คล้องกันและเด็กได้บรรลุผลตามจุดมุ่งหายและจุดประสงค์นั้นๆเพื่อให้การจัดหลักสูตรเป็นไปเพื่อโอกาสที่ดีที่สุดแก่เด็กทุกคนตามเป้าหมายของแต่ละคน
ทาบาเสนอว่าเราจำเป็นที่จะต้องกลับไปสู่รากหญ้า
(grass
root) และเริ่มที่จำสร้างรูปแบบใหม่ของการพัฒนาหลักสูตรจากหน่วยการเรียนการสอนในห้องเรียน
ซึ่งแสดงให้เห็นการฝึกปฏิบัติแนวคิดทฤษฎีและข้อมูลการวิจัยใหม่
วิธีการพัฒนาหลักสูตรของทาบาที่เริ่มจากรากหญ้าหรือหน่วยย่อยในระดับการเรียนการสอนในห้องเรียนแล้วค่อยๆพัฒนาเพิ่มมากขึ้นจากการทดลองใช้และปรับปรุงเรื่อยไปจนเป็นหลักสูตรภาพรวมในที่สุด
วิธีการนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นกระบวนการคิดหรือการพัฒนาหลักสูตรแบบนิรนัย (inductive
approach)
ทาบาเรียกว่าเป็นลำดับขั้นตอนของการพัฒนาหลักสูตรซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ
ดังนี้
ขั้นที่
2
ตามแนวคิดของทาบา
ทาบา
(TAba,
1962, p. 454) ได้กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตร
หมายถึงการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงหลักสูตรเดิมให้ได้ผลดียิ่งขึ้นทั้งในด้านการวางจุดมุ่งหมาย
การจัดเนื้อหาวิชาการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผลอื่นๆ
เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายอันใหม่ที่วางไว้
การแก้ไขและการสร้างความเชื่อมั่น
ของหน่วยการเรียน
1.
สามารถนำแนวคิดของทาบา
ไปใช้โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนตามที่ทาบาเสนอไว้
2.
เครื่องมือที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะ
การคิดที่เน้นการคิดแบบอุปนัย
หลักสูตรมีความเป็นรูปธรรม
สามารถนำไปใช้ได้จริงซึ่งแตกต่างจากหลักสูตรแม่บท
ให้ประสบการณ์ทั้งด้าน
Cognitive
Domain และ Affective Domain
สามารถอธิบายข้อแตกต่างของ
planed
curriculum , enacted-
curriculum
และ experience curriculum
ช่วยขยายกรอบแนวคิดของไทเลอร์
ขั้นที่
1
การเลือกและจัดลำดับประสบการณ์การเรียนรู้
กระบวนการพัฒนาหลักสูตรตามขั้นตอนทั้ง
7 ขั้นของทาบานี้
มีวิธีคิดเกี่ยวกับการสร้างหลักสูตรแตกต่างจากแนวคิดของไทเลอร์และนักพัฒนาหลักสูตรอื่นๆ
กล่าวคือในขณะที่รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์และของนักศึกษาส่วนใหญ่จะวางแผนและออกแบบหลักสูตรในภาพรวมออกมาก่อน
โดยใช้กระบวนการพัฒนาหลักสูตรแบบอนุมาน (Deductive Approach)
การผลิตหน่วยทดลอง
ข้อคิดเห็นบางประการเกี่ยวกับกระบวนการ
พัฒนาหลักสูตรของทาบา
การสอนที่เน้นการคิดแบบอุปนัย
ค่อนข้างที่จะใช้เวลามาก
การพัฒนาหลักสูตรโดยการกำหนดกรอบใหญ่ทั้งหมดก่อนจะทำให้เห็น
ภาพรวมของหลักสูตรได้ชัดเจนและจึงกำหนดเป็นหน่วยย่อยตามกรอบที่
ได้กำหนดไว้
วิเคราะห์ความต้องการ
เลือกเนื้อหาสาระและจัดลำดับเนื้อหา
พิจารณาสิ่งที่จะวัดผลและกำหนดวิธีวัดผลประเมินผล
ทาบา
เชื่อว่า
ครูซึ่งเป็นผู้ใช้หลักสูตรควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรกระบวนการพัฒนาหลักสูตรควรมีการพัฒนาจากระดับล่างสู่ระดับบน
(The
Grass - Roots Approach)
ประกอบด้วย
7 ขั้น ดังนี้
การพัฒนากรอบงาน
ทาบาอธิบายว่าในกรอบการคิดของขั้นตอนทั้งสองนี้หมายรวมถึงแนวคิดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของการเกิดวามคิดรวบยอดและลำดับของการสร้างเจตคติ
และความลึกซึ้งให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก
ในกรอบของกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อบรรลุจุดประสงค์จัดเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของโครง
สร้างหลักสูตรที่ต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าแทนที่จะปล่อยให้ครูตัดสินใจในขณะที่สอนหน้าห้องโดยปราศจากการวางแผนไว้ก่อน
หลีกเลี่ยงแนวคิดทางการเมือง
การศึกษาแนวคิดหรือวิธีการพัฒนาหน่วยการเรียนของทาบานี้อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับครู
ขั้นที่
7
การพัฒนาหลักสูตรด้วยวิธีการดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือของคร
ูซึ่งทาบาถือว่าเป็นระดับรากหญ้าของการศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งศึกษานิเทศก์
ผู้บริหารโรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรแต่การที่จะพัฒนาหลัก
สูตรจากหน่วยย่อยแล้วขยายวงออกไปนั้นต้องใช้เวลาซึ่งทาบาเองก็ยอมรับว่าเป็นหลายๆปีและนี่เองก็อาจเป็น
ข้อจำกัดของวิธีการพัฒนาหลักสูตรของทาบา
ดังนั้นการศึกษาแนวคิดหรือวิธีการพัฒนาหน่วยการเรียนของทาบานี้อาจจะเป็น
ประโยชน์สำหรับครูที่เริ่มที่จะพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาของตนโดยอาจจะปรับใช้โดยเลือกบางเนื้อหาที่น่าสนใจและมีลักษณะเฉพาะเหมาะสมสำหรับการพัฒนาเป็นหน่วยทดลองแล้วมีการทดสอบ
ปรับปรุงแก้ไขตามความเหมาะสมและอาจจะขยายวงไม่สู่เนื้อหาอื่นหรือระดับชั้นอื่นๆ
ได้ในที่สุด
การกำหนดจุดประสงค์
ข้อจำกัด
ขั้นที่
5 และ 6
Hilda
Taba
สรุปองค์ความรู้
ความหมาย
ผู้จัดทำ
การทดสอบหน่วยทดลอง
เนื่องจากหลักสูตรเป็นการออกแบบเพื่อให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้
ดังนั้นเมื่อเด็กแต่ละคนมีภูมิหลังที่แตกต่างกันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่นักพัฒนาหักสูตรจะต้องวินิจฉัยความแตกต่าง
ข้อบกพร่อง และความแตกต่างของภูมิหลังของเด็ก
การวินิจฉัยดังกล่าวจะทำสามารถกำหนดหลักสูตรให้เหมาะสมกับเด็กที่จะเรียน
หลักสูตรนั้นๆ
ได้
เป็นขั้นตอนซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของหลักสูตร
ทาบา
กล่าวว่าจุดประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนและกว้างขวางครอบคลุมจะเป็นพื้นฐานสำคัญ
ของหลักสูตรโดยที่จุดประสงค์ดังกล่าวจะเป็นตัวพิจารณาตัดสินว่าเนื้อหาใดมีความสำคัญและ
จะจัดเนื้อหาเหล่านั้นในหลักสูตรได้อย่างไร
รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร
ขั้นที่
3 และ 4
การประกาศใช้และการเผยแพร่
หน่วยการเรียน
การที่จะพัฒนาหลักสูตรจากหน่วยย่อยแล้วขยายวงออกไปนั้นต้องใช้เวลา
จะเห็นได้ว่าการพัฒนาหลักสูตรของทาบานั้นเริ่มจากหน่วยย่อยในระดับการเรียนการสอน
แล้วค่อยๆพัฒนาเพิ่มมากขึ้นจากการทดลองใช้และปรับปรุงเรื่อยๆ จนกลายเป็นหลักสูตร
วิธีการนี้เรียกว่าการพัฒนาหลักสูตรแบบนิรนัย ( Inductive approach ) ซึ่งต่างจากการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์และนักพัฒนาหลักสูตรคนอื่นๆที่มีการพัฒนา
หลักสูตรโดยการกำหนดกรอบความคิดอย่างกว้างๆแล้วจัดลำดับโครงสร้างจากนั้นจึงเป็น
การกำหนดหน่วยย่อยเพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอนหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากระบวน
การพัฒนาหลักสูตรแบบอนุมาน
( Deductive
Approach )
ขั้นที่
1 วิเคราะห์ความต้องการ
ขั้นที่
2 กำหนดจุดประสงค์
ขั้นที่
3 เลือกเนื้อหาสาระ
ขั้นที่
4 จัดลำดับเนื้อหา
ขั้นที่
5 เลือกประสบการณ์การเรียนรู้
ขั้นที่
6 จัดลำดับประสบการณ์การเรียนรู้
ขั้นที่
7 พิจารณาสิ่งที่จะวัดผลและกำหนดวิธีวัดผลประเมินผล
ในขั้นนี้ทาบาอธิบายว่านอกเหนือจากการวินิจฉัยความต้องการของเด็กเพื่อนำมากำหนจุดประสงค์ของหลักสูตรแล้ว
สิ่งที่นักพัฒนาหลักสูตรจะต้องศึกษาอย่างละเอียด
คือการศึกษาและวิเคราะห์เกี่ยวกับสังคม วัฒนธรรม ทฤษฎี
พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กและธรรมชาติของความรู้
ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวจะทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายทั่วไปซึ่งโรงเรียนจะได้นำมาพิจารณา
จำแนก แยกแยะ
อย่างเข้าใจแล้วกำหนดเป็นจุดประสงค์ของหลักสูตรที่จะเป็นจริงและเหมาะสมได้ต้องอาศัยข้อมูลตามระดับของความสามารถเฉพาะเด็กแต่ละกลุ่ม
และจุดเน้นจำเป็นตามประสบการณ์ของเด็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น